ฟุตบอล การรบบอล ฟูแล่ม – ลิเวอร์พูล

  วิเคราะห์บอล ฟูแล่ม - ลิเวอร์พูล

  วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก ฟูแล่ม - ลิเวอร์พูล 12 กุมภาพันธ์ 2557  เวลา 03:00 น. สนาม : คราเวน คอทเทจ   ผลบอลการพบกันล่าสุด 09/11/2013 ลิเวอร์พูล 4 - 0 ฟูแล่ม 12/05/2013 ฟูแล่ม 1 - 3 ลิเวอร์พูล 23/12/2012 ลิเวอร์พูล 4 - 0 ฟูแล่ม 02/05/2012 ลิเวอร์พูล 0 - 1 ฟูแล่ม 06/12/2011 ฟูแล่ม 1 - 0 ลิเวอร์พูล ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม ฟูแล่ม 09/02/2014 แมนฯ ยูไนเต็ด 2 - 2 ฟูแล่ม 05/02/2014 ฟูแล่ม 0 - 1 เชฟฯ ยูฯ 01/02/2014 ฟูแล่ม 0 - 3 เซาธ์แฮมป์ตัน 29/01/2014 สวอนซี 2 - 0 ฟูแล่ม 26/01/2014 เชฟฯ ยูฯ 1 - 1 ฟูแล่ม ลิเวอร์พูล 08/02/2014 ลิเวอร์พูล 5 - 1 อาร์เซน่อล 02/02/2014 เวสต์บรอมฯ 1 - 1 ลิเวอร์พูล 29/01/2014 ลิเวอร์พูล 4 - 0 เอฟเวอร์ตัน 25/01/2014 บอร์นมัธ 0 - 2 ลิเวอร์พูล 19/01/2014 ลิเวอร์พูล 2 - 2 วิลล่า ฟูแล่ม เรเน่ มูเลนสตีน กุนซือ เจ้าสัวน้อย เพิ่งพาทีมทำเซอร์ไพรส์ ลุยไปยับยั้งเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบอย่างหวุดหวิดตาย 2-2 เมื่อสุดอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่กระนั้นการเก็บได้ 1 คะแนน ก็ไม่ทำเป็นทำอันดับเขยื้อนขึ้นมาได้ ยังต้องอัดออกันรั้งสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก อยู่ในขณะนี้ เช่นเดิม เกมนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะผู้เล่นตัวหลักของ เจ้าสัวน้อย ยังอยู่กันเต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมเกมนี้ ยอห์น อาร์เน รีเซ่ อดีตกาลนักเตะ หงส์แดง จะได้เจอกับทีมเก่าอีกด้วย โดยข้อสงสัยบาดเจ็บผู้เล่นจะมีแค่ นีล เอเธอร์ริดจ์ (ผู้รักษาประตู) และ แม็ทธิว บริกก์ส (กองหลัง) 2 ผู้เล่นดาวรุ่ง ซึ่งไม่ค่อยถูกส่งลงสนามหญ้าอยู่แล้ว เพียงเท่านั้น เกมนี้ เรเน่ อาจเลือกใช้บริการ คอนสแตนตินอส มิโตรกลู หัวหอกป้ายแดง ที่คว้าตัวมาจาก โอลิมเปียกอส ลงเริ่มแรกในสีเสื้อ เจ้าสัวน้อย เป็นเกมแรก ผนึกกำลังกับ เลวิส โฮลท์บี้ เพลย์เมกเกอร์ สนธิสัญญาเช่า ที่ทำผลงานได้อย่างเลิศ ในนัดเสมอกับ ปีศาจแดง อย่างไรก็ตาม แม้วันนี้ ฟูแล่ม จะได้เล่นในบ้านของตนเอง และอาจจะมีความเก่งอยู่หลายขุมกับกับทะลวงไปแบ่งคะแนนกับ ปีศาจแดง แต่กระนั้นสถิติการเล่น ณ คราเวน ค็อทเทจ ดูน่าเป็นห่วงทีเดียว เพราะชนะได้เพียง 3 นัด จาก 12 นัด เท่านั้นเอง 11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามหญ้า ฟูแล่ม : มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก - ซาช่า รีเธอร์, แดน เบิร์น, จอห์นนี่ ไฮติงก้า, ยอห์น อาร์เน รีเซ่ - วิลเลี่ยม ควิสท์, สกอตต์ พาร์เกอร์, สตีฟ ซิดเวลล์, คีแรน ริชาร์ดสัน, เลวิส โฮลท์บี้ - คอนสแตนตินอส มิโตรกลู ลิเวอร์พูล ฟอร์มร้อนแรง เหลือเกินสำหรับ ลิเวอร์พูล ในระยะเวลาของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือใหญ่ โดยล่าสุดเพิ่งเปิดถิ่น แอนฟิลด์ ไล่ยำใหญ่ อาร์เซน่อล ไปถึง 5-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะยังรั้งอยู่ที่ 4 เช่นเดิม แต่กระนั้นก็ทำชั้นเชิงจี้หลัง ปืนใหญ่ อยู่เพียง 5 แต้ม และตาม เชลซี จ่าฝูง 6 คะแนน ด้วยกัน โดยในเกมนี้ หงส์แดง จะยังไม่เป็นได้ใช้บริการ มามาดู ซาโก้, โฆเซ่ เอ็นริเก้ และ ลูคัส เลว่า ได้เหมือนเดิม เนื่องจากยังมีปัญหาท่าทีบาดเจ็บทั้งหมด แต่ทาง แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ กับ เกล็น จอห์นสัน รอบรู้สลัดเดี้ยง กลับมาฝึกกับทีมได้แล้ว ซึ่งดีที่สุดน่าจะมีรายชื่อเป็นเพียงตัวเผื่อขาดเท่านั้น ดังนั้น บีร็อด คงจะไม่เปลี่ยนแผนการจากเกมที่เอาชนะเลิศ ปืนใหญ่ มากนัก และน่าจะใช้ 4-4-2 เช่นเดิม เพราะ 11 นักเตะตัวจริงในแมตช์นั้น ต่างควงกันโชว์ฟอร์มได้อย่างวิสิฐ อย่างไรก็ตามเรื่องที่น่ากังวลอย่างเดียวของ ลิเวอร์พูล ก็คือเกมการเล่นนอกบ้าน ในซีซั่นนี้ ที่ชิ้นงานไม่ค่อยสู้ดีนัก โดย 12 นัด ที่เล่นเกมเยี่ยมเยียน ภายในลีก ชนะได้แค่ 4 นัด เสมอ 4 นัด และแพ้ 4 นัด ด้วยกัน 11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามของ ลิเวอร์พูล : ซิมงต์ มิโญเล่ต์ - จอน ฟลานาแกน, มาร์ติน สเคอร์เทล, โคโล่ ตูเร่, อาลี ซิสโซโก้ - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - หลุยส์ ซัวเรซ ,แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ โปแกรมบอลน่าสนใจ • ฟูแล่ม มีสถิติเล่นในบ้าน สุดบู่ โดย 16 นัดหลังสุด แพ้ไปถึง 12 นัด ที่เหลือแบ่งเป็น ชนะ 3 นัด และเสมอ 1 นัด • ส่วน ลิเวอร์พูล เมื่อต้องออกไปเยือนคู่แข่ง เก็บคลีนชีตได้เพียง 1 นัด จาก 11 นัด ในลีกซีซั่นนี้ เท่านั้น • รวมไปถึง 9 นัดหลังสุดของ ลิเวอร์พูล เก็บชัยนอกบ้านได้เพียง 2 นัด ที่เหลือ เสมอ 3 นัด และแพ้ถึง 4 นัด • หลุยส์ ซัวเรซ ยิงได้ 4 ประตู จาก 4 นัด ที่พบกับ ฟูแล่ม ภายในลีก • แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เคยยิงแฮตทริกให้ ลิเวอร์พูล บุกไปชนะ ฟูแล่ม 3-1 เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา • ดาร์เรน เบนท์ หัวหอก ฟูแล่ม ยิงได้ 5 ประตู รวมทุกทีมที่เจ้าตัวเคยสังกัด เมื่อเจอกับ ลิเวอร์พูล หนึ่งในนั้นเป็นลูก บีชบอล สมัยอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

คอสต้าเขกชัย! ตราหมีทะลวงเฉือนมิลาน 1:0

 
คอสต้ากระแทกการชนะ !ตราหมีบุกกรีดมิลาน1:0+คลิป

 วิเคราะห์บอล : การรบบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557

เอซี มิลาน 0:1 แอตเลติโก้ มาดริด

สนาม : ซาน ซิโร่

ผู้ตัดสิน : เปโดร โปรเอนก้า (โปรตุเกส)

เปิดฉากครึ่งแรกมานาที 9 มิลาน ได้ทักทายก่อนจากลูกฟรีคิก หน้าเบ้าหลอมเขตโทษกูรำทางขวา มาริโอ บาโลเตลลี่ ปั่นด้วยขวาลูกฟุตบอลกระโดดกำแพงน้อมหลุดเสา สองออกไป

นาที 15 มิลาน มาได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ เด ชิโญ่ จ่ายฟุตบอลจากฝั่งขวาให้ อเดล ทารับต์ ได้ดีดเข้ากลาง กาก้า วิ่งสอดเข้ามารับลูกฟุตบอล ก่อนปั่นด้วยซ้ายลูกบอลทะลุมือ กูร์กตัวส์ ไปแล้วแต่กลับไปชนอย่างน่าเสียดาย

นาที 26 เด ชิโญ่ ได้รับเจ็บจากโอกาสอันควรทะเลาะ กับ อินซัว ทำให้ เซดอร์ฟ นายใหญ่ มิลาน ต้องเปลี่ยนตัวเอา อิญญาซิโอ อบาเต้ ลงมาแทน เวลที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้นจบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0:0

ลงลมาต่อครึ่งหลัง 2 นาที ราอูล การ์เซีย ได้สับไกโอกาสแรกไปติดผู้เล่นมิลาน ก่อนได้ซ้ำด้วยซ้ายจากหน้าเส้นขอบจุดโทษบอลปราดพ้นหน้าประตูออกหลังไป

นาที 51 ดีเอโก้ โกดิน วางฟุตบอลจากขวาเข้าในแบบแผนเขตโทษไปทางเสาสอง ดีเอโก้ คอสต้า กระโดดลอยตัววอลเลย์ด้วยขวาบอลโด่งข้ามคาน

นาที 60 อเดล ทารับต์ จ่ายลูกบอลจากขวาเข้ากลางให้ ริคาร์โด กาก้า ได้แต่งเข้าขาวก่อนสับไกลจากหน้าเส้นจุดโทษลูกบอลผ่านหน้าประตูออกหลังไป

นาที 83 แอตเลติโก้ มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำด้วยผลบอล 1:0 จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ราอูล การ์เซีย โยนยาวเข้าเขตโทษ ผู้เล่น เอซี มิลานโหม่งขัดขวางบอลไม่ขาดโด่งมาทางเสาสองเข้าทาง ดีเอโก้ คอสต้า ได้โหม่งพ้องเข้าไปไม่เหลือ

เวลาที่เหลือทั้ง 2 ทีมไม่สามารถทำประตูกันเพิ่มได้จบเกม ตราหมีแอตเลติโก้ มาดริด บุกเถือชนะปีศาจแดง-ดำเอซี มิลาน 1:0 ต้องไปสนับสนุนกันต่อในเกมที่ 2 ที่บ้าน แอตเลติโก้ มาดริด

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เอซี มิลาน : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : คริสเตียน อับเบียติ
กองหลัง : อูร์บี เอมานูเอลสัน , อาดิล รามี่, ดานิเอเล่ โบเนรา , มัตเตีย เด ชีโญ่ (อิญญาซิโอ อบาเต้ น.26)
กองกลาง : ไนเจล เด ยอง, ไมเคิ่ล เอสเซียง - อันเดรีย โปลี่ (เควิน คอนสแตนท์ น.85), อเดล ทารับต์, ริคาร์โด กาก้า
กองหน้า : มาริโอ บาโลเตลลี่ (จามเปาโล ปาซซินี่ น.78)

แอตเลติโก้ มาดริด : 4-4-2
ผู้รักษาประตู : ธิโบต์ กูร์กตัวส์
กองหลัง : ฆวนฟราน ตอร์เรส, ชูเอา มิรานด้า, ดีเอโก้ โกดิน, เอมิเลียโน่ อินซัว
กองกลาง : กาบี้ เฟอร์นานเดซ, มาริโอ ซูอาเรซ, โกเก้, อาร์ดา ตูราน
กองหน้า : ราอูล การ์เซีย , ดีเอโก้ คอสต้า

คลิป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เอซี มิลาน 0:1 แอตเลติโก้ มาดริด

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

บีร็อดเชื่อหงส์เข้าป้ายซิวแชมป์ลีกได้

วิเคราะห์บอลคืนนี้ บีร็อด เชื่อ หงส์แดง มีโอกาสเข้าป้ายซิวถ้วย พรีเมียร์ลีก มานอนกอดได้ซีซั่นนี้ หลังเพิ่งบุกงาบ 3 แต้มสำคัญเหนือ เจ้าสัวน้อย ได้ ตามหลังจ่าฝูง สิงห์บลูส์ แค่ 4 แต้ม

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำแห่งการต่อสู้พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อว่า สังกัดเดิมนั้นเก่งเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีมาครองได้ในฤดูกาลนี้ หลังจากสามารถบุกไปคว้าชัยเหนือ ฟูแล่ม ได้ถึงถิ่นคราเวน ค็อทเทจ 3-2 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (12 ก.พ.) จนขณะนี้มีแต้มตามหลังจ่าฝูง เชลซี อยู่เพียง 4 แต้มเท่านั้น

ในเกมดังกล่าว หงส์แดง นั้นต้องเป็นฝ่ายตามตีเสมอ เจ้าสัวน้อย ถึง 2 ครั้ง ก่อนจะมาได้ประตูชัยจากการเอาชีวิตจุดลูกโทษของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในนาทีสุดท้าย ทำให้ ลิเวอร์พูล นั้นเก็บ 3 คะแนนเข้าถุงย่ามได้สำเร็จ และมีแต้มตามหลังจ่าฝูง สิงโตน้ำเงินคราม ซึ่งทำได้แค่เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11 ก.พ.) อยู่ 4 คะแนนเท่านั้น จึงทำให้ บีร็อด เชื่อว่า ต้นสังกัดนั้นมีฤกษ์ที่จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้

นายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือ ให้สัมภาษณ์ว่า ผมรู้ดีว่านี่มันคือสิ่งสำคัญ ผมพูดกับนักเตะในทีมว่าเกมนี้มันจะทำให้เราได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า เพราะว่าเกมนี้คุณได้ประชันฝีเท้ากับทีมที่กำลังต่อสู้เพื่อยืดหยัดอยู่ในลีกสูงสุดต่อไป และคุณลองมองตอนที่ เจอร์ราร์ด ยิงประตูได้แล้วถอดเสื้อเบ่งกล้ามสิ มันช่างเจ๋งจริงๆ

เราเล่นกันได้อย่างชั้นเลิศในสัปดาห์นี้ และเมื่อคืนนี้เราก็ทำได้โจมตีไปเก็บ 3 คะแนนสำคัญได้ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าทีมของเรานั้นยิ่งเล่นยิ่งปรับปรุงขึ้น เราต้องกดดันตัวเองอย่างต่อเนื่อง แต่เราก็แสดงให้เห็นแล้วว่าตอนนี้เราเป็นทีมที่ดีมากๆ ทีมอื่นที่อันดับอยู่เหนือเรา เราต้องให้พวกเขาต้องทำแต้มหล่นบ้าง แต่เรารู้ดีว่าเรายังมีเกมที่พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ในบ้านของเราเอง ฉะนั้นเราเลือกที่มองเกมต่อเกมดีกว่า และในฐานะโค้ชผมดีใจนะที่เห็นทีมกำลังดีขึ้นขึ้นเรื่อยๆ ร็อดเจอร์ส ร่ายยาว 

สำนักข่าวผู้ดีตีข่าวคราวผีแดงบ่งชี้ให้เป็นอิสระมอยส์ ดึงป๋ากู้รุนแรง!

ฟุตบอล : ข่าวดีนะเนี่ย สื่อขอบเขตเมืองแมนเชสเตอร์ พาดหัวข่าวโจมตี มอยส์ กุนซือ \\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\'\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\'ปีศาจแดง\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\'\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\' ชี้มีสิทธิ์โดนไล่ออกในเร็ววันนี้ หลังฟอร์มห่วยบรม

แมนเชสเตอร์ อีเว่นนิ่ง นิวส์ หนังสือพิมพ์พื้นที่ประจำเมืองแมนเชสเตอร์ รายงานว่า เดวิด มอยส์ กุนซือ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ตกอับแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีลู่ทางถูกไล่ออกจากชั้นไม่น้อย ภายหลังพาทีมทำผลงานสุดย่ำแย่ ซึ่งรวมถึงเกมล่าสุดที่ทำได้เรียบกับทีมบ๊วย ฟูแล่ม 2-2 คารังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

พาดหัวข่าวหน้า 1 ของ หนังสือพิมพ์ Manchester Evening News ประจำวันจันทร์ที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นข้อความที่โดนใจสาวก ปีศาจแดง สุดๆ ว่า เสียใจด้วยนะมอยส์ มันไม่ดีพอ ส่วนปกหลังของหนังสือพิมพ์นั้นก็ตั้งคำถามใหญ่กับอดีตสมัยผู้บัญชาทีมเอฟเวอร์ตัน หรือฝันร้ายของมอยส์จะไม่มีวันจบ?

เวลานี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำกลุ่มของ มอยส์ รั้งอันดับที่ 7 ของตาราง ตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่ 4 ถึง 9 คะแนน ส่วนผลงานที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดซีซั่นนั้น ก็เข้าขั้นย่ำแย่ โดยพ่ายให้กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน, สวอนซี, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และเอฟเวอร์ตัน

ขณะเดียวกันก็มีแนวทางข่าวโคมลอยว่า ปีศาจแดง อาจแต่งตั้ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมผู้ยิ่งใหญ่ กลับมารั้งบังเหียนเป็นการชั่วคราว ก่อนจะดำเนินการขวายขวนกุนซือคนใหม่หลังจบฤดูกาลนี้

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

10 จับจ่าย-แลกเปลี่ยนแพงสุด ตลาด 2013-14 รอบ 2 “ผู้ดี“

ฟุตบอล : อาจเรียกได้ว่าตลาดนักเตะยุโรปรอบ 2 เกือบปิดลงแบบสุดเงียบ ไม่เว้นแม้แต่ลีกลูกหนังขวัญใจคอบอลไทยอย่างพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

หากไม่นับการไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ ฆวน มาต้า และต่อไปนี้ คือ 10 อันดับการซื้อขายแพงสุดของตลาดหน้าหนาวเมืองผู้ดีหนนี้

ฆวน มาต้า

 

(เชลซี ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 37.1 ล้านปอนด์ / 2,003 ล้านบาท)
หลังไม่เป็นที่ต้องตาในการกลับมาควบคุมแนวทัพคำรบ 2 ของ โจเซ่ มูรินโญ่ ทำให้เจ้าของรางวัลนักเตะยอดแน่จริงสโมสร 2 ฤดูหลังสุดอย่าง มาต้า ต้องหันไปฝากชีวิต
ค้าแข้ง และโอกาสติดทัพสเปนลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ด้วยสถิติค่าตัวแพงสุดในตำนาน ปีศาจแดง 37.1 ล้านปอนด์

เนมานย่า มาติช

 

(เบนฟิก้า ไป เชลซี 20.75 ล้านปอนด์ / 1,120 ล้านบาท)
3 ปีนับจากลารังสแตมฟอร์ดบริดจ์ มาติช ย้ายกลับมาจากเบนฟิก้าด้วยราคาถึง 20.75 ล้านปอนด์ ทั้งที่วันไปเป็นแค่ตัวแถมในหนังสือสัญญาซื้อ ดาวิด ลุยส์ จาก เหยี่ยวลิสบอน และแม้ตลอดปี 2009-2011 มิดฟิลด์ทีมชาติเซอร์เบีย จะได้สวมเสื้อเชลซีแค่ 3 หน แต่มูรินโญ่ยืนกรานว่า มาติชได้เรียนรู้วิชาลูกหนังที่โปรตุเกส มาเต็มขบวนแห่ยุทธแล้ว

โยอัน กาบาย

 

(นิวคาสเซิล ไป ปารีส แซงต์แชร์แมง 19 ล้านปอนด์ / 1,026 ล้านบาท)
นิวคาสเซิล อาจปัดข้อเสนอขอซื้อ กาบาย จากอาร์เซน่อล ในตลาดนักเตะรอบก่อน แต่กลับตอบรับเงิน 19 ล้านปอนด์ จากปารีส แซงต์แชร์แมง แบบเรียบง่าย แสดงให้เห็นว่าทีม ปืนใหญ่ ไม่มีเจตนาทุ่มเงินล่ากองกลางร่างเล็ก ซึ่งรับใช้ทีมชาติฝรั่งเศส ไปแล้ว 28 นัดรายนี้อย่างจริงจังตามที่ตกเป็นข่าว อย่างไรก็ตาม กาบายอาจเป็น เทพ ในลูกหนังอังกฤษ แต่ต้องเจอคำถามช่วงชิงสภาพตัวจริงที่ปาร์ก เดส์ แปร็งซ์ สังเวียนที่เต็มไปด้วยแข้งดังล้นทีมอย่างไม่ต้องสงสัย

เควิน เดอ บรอยน์

 

(เชลซี ไป โวล์ฟสบวร์ก 16.5 ล้านปอนด์ / 891 ล้านบาท)
ในเมื่อไม่สามารถทำให้มูรินโญ่ติดตราตรึงใจ ทั้งที่มียามโชว์เพลงเตะช่วงต้นฤดู เดอ บรอยน์ ก็กลายเป็นส่วนเกินชนิดที่นายใหญ่ทีม สิงห์บลู เคยลมเสีย และเดินออกจากห้องขยายความข่าวดื้อๆ หลังถูกสื่อจี้ถามว่าทำไมปีกทีมชาติเบลเยียมรายนี้ถึงไม่ได้ลงเล่นมาแล้ว แต่การซื้อมาจาก เก็งก์ 7 ล้านปอนด์ (378 ล้านบาท) แล้วขายให้ โวล์ฟสบวร์ก ทีมร่วมลีกเมืองเบียร์ แวร์เดอร์ เบรเมน ที่เดอ บรอยน์ เคยระเบิดฟอร์มเก่งด้วยสัญญายืมตัวฤดูกาลที่แล้ว ด้วยมูลค่าถึง 16.5 ล้านปอนด์ ก็นับเป็นข้อดีที่ตัวนักเตะมีต่อเชลซีเหมือนกัน

คอนสแตนตินอส มิโตรกลู

 

(โอลิมเปียกอส ไป ฟูแล่ม 12.5 ล้านปอนด์ / 675 ล้านบาท)
จุดประสงค์ในการจาก โอลิมเปียกอส มา ฟูแล่ม ของ มิโตรกลู ย่อมหนีไม่พ้นการใช้เวลากระชั้นชิดอีกไม่กี่เดือนนับจากนี้ในการพา เจ้าสัวน้อย หลีกเลี่ยงการหล่นชั้นจากลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี โดยมีดีกรี 14 ประตูในศึกกรีก ซุปเปอร์ลีก ฤดูกาลนี้ และการกดสกอร์เหนือโรมาเนีย ในเกมเพลย์ออฟ จนพา กรีซ บ้านเกิดผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้สำเร็จเป็นเดิมพัน

เคิร์ต ซูม่า

 

(แซงต์-เอเตียง ไป เชลซี 12 ล้านปอนด์ / 648 ล้านบาท)
นอกจากขึ้นชื่อว่าเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่เต็มไปด้วย ความถึก แล้ว ซูม่า ในวัยแค่ 19 ปี ไม่ได้เพิ่งเป็นกำลังหลักของ แซงต์-เอเตียง แต่เจ้าตัวเคยเริ่มต้นเกมชุดใหญ่ให้ฝ่ายหลังตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนมาแล้ว แถมยังติดทีมชาติฝรั่งเศส ชุดยู-21 เป็นที่เรียบร้อยอีกด้วย ทว่ากว่าแฟนเชลซีจะได้ยลฝีเท้า คงต้องรอในฤดูหน้า เนื่องจากมูรินโญ่อนุญาตให้ซูม่าอยู่ช่วยทีมเก่าจนจบฤดู

โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

(เอฟซี บาเซิล ไป เชลซี 11 ล้านปอนด์ / 549 ล้านบาท)
ทีม สิงห์บลู คงทนไม่ไหวที่จะเห็นนักเตะซึ่งเคยซัดประตูใส่พวกเขามาแล้วถึง 3 ครั้งในรอบไม่ถึง 1 ปีเต็ม ไปเป็นกรรมสิทธิ์ของกรุ๊ปคู่แข่งร่วมการสู้รบพรีเมียร์ลีก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะซื้อปีกทีมชาติอียิปต์ ที่มีชื่อเล่น เมสซี่อียิปต์ อย่าง ซาล่าห์ ตัดหน้าลิเวอร์พูลในท้ายที่สุด

เชน ลอง

(เวสต์บรอมวิช ไป ฮัลล์ ซิตี้ 7 ล้านปอนด์ / 378 ล้านบาท)
ในฐานะที่เป็นทีมซึ่งมีค่ากระจายทำประตูเกมลีกน้อยกว่าจำนวนแมตช์ที่ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก ทำให้ ฮัลล์ ซิตี้ ยอมเพิ่มข้อกล่าวจาก 6 ล้านปอนด์ เป็น 7 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อ เชน ลอง หัวหอกทีมชาติไอร์แลนด์ มาล่าตาข่ายในถิ่นเคซี สเตเดียม

นิกิช่า เยลาวิช

(เอฟเวอร์ตัน ไป ฮัลล์ ซิตี้ 6.5 ล้านปอนด์ / 351 ล้านบาท)
ถึงจะออกสตาร์ตได้ราวกับ เกิดใหม่ ที่เอฟเวอร์ตัน ด้วยสถิติ 9 ประตู จาก 13 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาจากกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ซึ่งกำลัง ถังแตก ในต้นปี 2012 แต่ทันทีที่ถูกดวงวิญญาณสากกะเบือเข้าสิงได้พักใหญ่ ชีวิตที่เหมือนเกิดใหม่ของเยลาวิช ต้องไปจุติใหม่กับฮัลล์ ก่อนหน้าเชน ลอง ไม่กี่วัน

เจอร์เมน เดโฟ

(ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ไป โตรอนโต 6 ล้านปอนด์ / 324 ล้านบาท)
ทันทีที่เสียฐานันดรตัวจริงให้การมาของ โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ทำให้ เดโฟ ใช้เวลาไม่นานในการวินิจฉัยใจลาลีกบ้านเกิด ไปสืบเสาะความสุขช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีก สหรัฐ กับ เอฟซี โตรอนโต ชนิดที่เจ้าตัวในวัย 31 ปี ไม่แคร์ว่าสถานภาพในทีมชาติอังกฤษ จะสั่นคลอนหรือไม่ แม้สังกัดใหม่จะให้ ไก่เดือยทอง ยืมเดโฟไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็ตาม

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่