คราวเจอร์ราร์ด กับการปลงใจ ที่เปลี่ยนชีวิต
วิเคราะห์บอลคงพูดไม่ผิดนักสมมุติจะเผยว่า ภาพของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ในชุดเสื้อสีอื่นที่นอกเหนือจากสีแดงเพลิงของกลุ่มลิเวอร์พูล นั้นเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือจินตนาการของเหล่า Kopites ทั้งปวง
ซึ่งหมู่มวลค็อปชนนั้นไม่เคยคิดมาก่อนแม้สักเวลานาทีว่ากัปตันคณะยอดดวงใจของพวกเขานั้นจะจากสโมสรแห่งนี้ไปอยู่กับพวกใดอีก เพราะเฉพาะในช่วงบั้นปลายชีวิตเช่นนี้
แต่ว่าสิ่งที่ทุกคน เชื่อ นั้นคือเจอร์ราร์ด จะอยู่กับ ฝ่ายลิเวอร์พูล สโมสรเดียวตลอดไปจนเลิกเล่นฟุตบอล มีสถานะเป็น One-man-club เป็นตัวอย่างของนักฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ที่รับใช้สโมสรไปจวบจนลมหายใจสุดท้ายในเกมลูกหนัง
แต่ว่าน่าเสียดายพร้อมกับน่าเสียใจที่สิ่งเหล่านั้นคงไม่มีวันเกิดขึ้น ตราบสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด เตรียมประกาศการปลงใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต
ที่ว่าเขาคงต้องไปจาก ถิ่นแอนฟิลด์แล้วหลังจบฤดูกาลนี้
ซึ่งความแน่แท้แล้วเจอร์ราร์ด เคยมีโอกาสที่จะไปจาก กรุ๊ปฟุตบอลลิเวอร์พูล มาก่อนครับ กับเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงมากด้วยอย่างน้อยถึง 2 ครั้งด้วยกัน
ในครั้งแรกในช่วงหลังจบฤดูกาล 2003 - 2004
กับ.oอีกครั้ง ซึ่งใกล้เคียงยิ่งกว่าในช่วงหลังจบฤดูกาล 2004 - 2005 โดยทั้งสองครั้งเป็น พวกเชลซี ที่พยายามจะเจรจาเพื่อดึงตัวเขาไปร่วมหมู่ให้ได้ พร้อมด้วยครั้งหลังนั้นเจอร์ราร์ด ตอบตกลงด้วยวาจาไปแล้ว
แต่ว่าในคืนสุดท้ายหลังทบทวนตัวเองอย่างดี เสียงของหัวใจเผยกับเขาว่า แม้การไปอยู่ คณะเชลซีจักทำให้เขามีโอกาสประสบความสำเร็จมากมาย แต่จะไม่มีเสื้อสีไหนนอกจากสีแดงของลิเวอร์พูล สนามใดนอกเหนือจากแอนฟิลด์ กับแฟนบอลกลุ่มไหนนอกเหนือจากเหล่า กลุ่มเดอะ ค็อป ที่เขาต้องการรับใช้
ตัวของเจอร์ราร์ด จึงไม่ได้เป็นแทบกัปตันคณะผู้ยิ่งใหญ่
แต่ว่าเขายังเป็นผู้รับใช้สโมสรที่จงรักภักดีมากที่สุดคนหนึ่งด้วย
รวมทั้งโอกาสของความสำเร็จ พร้อมกับเงินตราไม่ใช่สาระสำคัญในชีวิต เพราะสิ่งสำคัญที่สุดที่เขาต้องการทำให้ได้คือการนำ หมู่ลิเวอร์พูล กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งการจักทำให้ได้เช่นนั้น นั่นหมายถึงการ เสียสละ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
แต่ว่าในขณะที่ซูเปอร์สตาร์อย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส กับหลุยส์ ซัวเรซ เลือเลื่องกที่จักทิ้งสโมสรอย่างหมู่ลิเวอร์พูลไปเพราะรู้ถึง ศักยภาพ ของยักษ์หลับในอดีตว่าเป็นเรื่องยากที่จักกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง
ดังนั้นเจอร์ราร์ด ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่กล้าปฏิเสธสโมสรอย่าง เหล่าบาเยิร์น มิวนิค พร้อมด้วย คณะเรอัล มาดริด เพื่ออยู่ที่แอนฟิลด์ถัด
ก็ไม่มีใครรู้ครับว่าน้ำหนักของ ความรับผิดชอบ ที่เจอร์ราร์ด แบกรับแทนทุกคนตลอดระยะเวลา 11 ปีของการเป็นกัปตันหมู่นั้นหนักหนาแค่ไหน
ซึ่งมีเช่นเขาเท่านั้นที่รู้พร้อมทั้งรับไว้ด้วยความเต็มใจ โดยมิได้ปริปากใดๆไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ถึงแม้จะไม่เชี่ยวชาญบรรลุภารกิจในการนำพาสโมสรกลับคืนสู่จุดสูงสุดได้ โดยเฉพาะกับการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ซึ่งทำได้ดีที่สุดเช่นแค่การเป็นรองแชมป์ 3 ครั้งในฤดูกาล
2001 - 2002
2008 - 2009
2013 - 2014
ซึ่งก็ได้จบลงอย่างโศกนาฏกรรม คราวเจอร์ราร์ด เป็นคน ลื่นล้ม ด้วยกัน ให้ความเป็นไทให้โอกาสครั้งเดียวในชีวิตของเขาหลุดมือไป
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาด้วยกันเหล่าเดอะ ค็อป นั้นมี ความทรงจำ ที่งดงามร่วมกันมากมาย
นับจากวันแรกที่ลงสนามในฐานะตัวสำรอง สู่ประตูแรกที่สวยงามในเกมกับเชฟฟิลด์ เวย์นสเดย์ ก้าวสู่การเป็นกองกลางตัวหลักของกลุ่ม กับการเป็นกัปตันเหล่า
ซึ่งจาก ปาฏิหารย์ที่อิสตันบูล กับโทรฟี่ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 2005 สู่ ปาฏิหารย์แห่งคาร์ดิฟฟ์ กับโทรฟี่เอฟเอ คัพ ในปี 2006
ดังนั้นเจอร์ราร์ด เป็นทั้งแรงบันดาลใจ พร้อมกับศูนย์รวมใจของ ทีมลิเวอร์พูลตลอดมา
แต่ว่า พอวันเวลาเดินทางมาถึงวันที่แข้งขานั้นไม่แข็งแรงเหมือนก่อน พละกำลังไม่มีเหมือนเก่า นักฟุตบอลผู้ทระนงในการเล่นอันสง่างามของตัวเองอย่างเจอร์ราร์ด ยังไม่อาจตัดใจยอมรับสภาพของตัวเองได้
ซึ่งรายได้และระยะเวลาในสัญญา 12 เดือนที่ หมู่ลิเวอร์พูล เพิ่งจะมอบให้ในเดือนพฤศจิกายน
- ซึ่งนี่จะเป็นหนึ่งในสิ่งที่เป็นคำถามว่าเหตุใดบอร์ดบริหารhttp://sport.sanook.com/football/premierleague/จึงดำเนินการล่าช้าขนาดนี้
- พร้อมกับไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึกว่าเขา นักฟุตบอลผู้เคยเป็นเบอร์หนึ่งตลอดกาล จักต้องตกอยู่ในฐานะตัวสำรองที่ต้องเฝ้ารอโอกาสตัวเองอย่างอดทน ไม่ก็สมมติลงตัวครันก็ถูกตราหน้าว่าเป็น ตัวถ่วง ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ็บปวดมากในความรู้สึก
ถ้าสมมตอยู่อย่างนี้ สู้จากไปเสียดีกว่า ไปค้นหาความท้าทายใหม่ในบั้นปลายของชีวิตการเล่น ไปในที่ที่เขายังศักยเป็นเบอร์หนึ่งได้อีกครั้ง
ซึ่งก็ไม่มีหนทางใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว
ดังนั้นนี่จึงเป็นการปลงใจ เพื่อตัวเอง ครั้งแรกพร้อมกับครั้งเดียวของเจอร์ราร์ด เป็นการ ตัดสินใจแห่งชีวิต ที่เดอะ ค็อปทุกคนควรต้องยอมรับพร้อมทั้ง ปลงให้เขาได้ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง เช่นกันกับเพื่อให้สโมสรได้ก้าวเดินถัดจากข้างหน้าไม่ต้องเสียเวลากังวลกับไม้ใกล้ฝั่งเช่นเขาอีก
พร้อมทั้งการปลงใจครั้งนี้ยังทำให้ทุกคนได้ ตระหนัก ถึงความยิ่งใหญ่ของนักฟุตบอลคนนี้อีกครั้ง เพราะว่าบางทีการมองจากเบื้องหน้านั้นเราอาจไม่เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเจอร์ราร์ด ได้เท่ากับการมองจากเบื้องหลังในวันที่เขาต้องไป
ถึงแม้ว่าเจอร์ราร์ด จักไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญาฉบับสุดท้ายที่สโมสรมอบให้ กับแม้จะต้องร่ำลาจากกันไปก่อนในวันนี้
แต่ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพื่อตารางบอลสโมสรตลอดระยะเวลา 16 ปีในการเป็นนักเตะ กับอีก 25 ปีที่ใช้ชีวิตในรั้วแอนฟิลด์ พร้อมด้วย 34 ปีที่มอบทั้งกายกับใจให้แก่ลิเวอร์พูล สโมสรรักแรกพร้อมทั้งรักเดียว
ต่างว่าต่อให้จักไม่ได้สถานะ One-man-club เหมือนเจมี่ คาร์ราเกอร์ - แล้วเจอร์ราร์ด นั้นยังคงเป็นตำนานหมายเลขหนึ่งในดวงใจของเดอะค็อปชนเสมอ ในฐานะ มิสเตอร์ พวกลิเวอร์พูล ที่ไม่มีใครอาจทดแทนได้ตลอดกาล
ซึ่งสิ่งสุดท้ายที่เจอร์ราร์ด จักมอบให้แก่เดอะ ค็อป คือ หนังสือสัญญาใจ ที่จักสั่งกล่าวกับทุกคนว่าอย่าได้เศร้าเสียใจนาน
เพราะว่าการจากลาครั้งนี้เป็นแทบชั่วคราวเท่านั้น
ซึ่งครั้งถึงเวลา เขาจะกลับมา ด้วยกันจะไม่มีวันจากไปไหนอีก !!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น