วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บาโลเตลลี่เผื่อว่าคือแบบนี้เลิกจ้างเท่าไรก็คงไม่ไป กดอีกต่างหากไงก็ไม่ยอม

ถ้าเป็นแบบนี้ไล่เท่าไรก็คงไม่ไป กดยังไงก็ไม่ลง




เพราะที่ปกติแล้ว เวลานักเตะซักคนประกาศจุดยืน แสดงความจงรักภักดีต่อสโมสรฟุตบอล ด้วยการยืนกรานว่าไม่คิดจะเขยื้อนไปไหน ขออยู่ประสบความสำเร็จกับกลุ่มแล้วล่ะก็ มันควรจะเป็นเรื่องที่น่าปลาบปลื้มยินดี ทั้งด้วยสโมสรพร้อมทั้งแฟนบอล

พางแต่ว่าส่วนใหญ่แฟนๆ มักจะช้ำใจกับการเห็นดาวเตะขวัญใจออกมาปฏิเสธสาบานใหม่ที่สโมสรยื่นให้บ้างล่ะ ออกมาเปรยหรือไม่ขู่ว่าจะย้ายถิ่นบ้างล่ะ

เพราะว่าที่บางทีก็อาจจะปวดใจไม่พ่ายกัน ถ้านักเตะที่ต้องการให้เขยิบเต็มที ใคร่ให้โละออกไปไวๆ ดันประกาศว่าให้ตายก็ไม่โยกย้าย

ด้วยกันมาริโอ บาโลเตลลี่ นั้นคือโปรแกรมพรีเมียร์ลีกนักเตะที่น่าจักทำให้เหล่าเดอะค็อปรู้สึกแบบหลังอยู่




ซึ่งการที่ตลาดนักเตะนักเตะหน้าหนาวกำลังจักปิดลงในวันจันทร์ที่จักถึง หมายความว่าแต่ละคณะมีเวลาเหเลื่องอีกแค่ไม่กี่วันที่จักซื้อไม่ก็ขายนักตะให้เสร็จสิ้นก่อนเส้นตาย ไม่อย่างนั้นก็ต้องรอไปจนกว่าฤดูกาลจักสิ้นสุดลง

สิ่งนั้นหมายถึงการพลาดโอกาสปรับเปลี่ยนอะไรให้ทันกาลเนื่องด้วยครึ่งที่เหร่ำลืออยู่ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกล่าสุดฤดูกาลนี้

ด้วยกันเพราะ ทีมลิเวอร์พูล แล้วเป้าหมายหลักในการเสริมทัพอยู่ที่การมองหาศูนย์หน้ามาแทนที่การอำลาไปของ หลุยส์ ซัวเรซ และการเจ็บยาวของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

การที่คาริม เบนเซม่า กับ เอเซเกล ลาเวซซี่ ที่เป็นสองดาวเตะที่มีชื่อตกเป็นข่าวกับหงส์แดงเป็นพิเศษ ภายหลังกองหน้าตัวใหม่ในช่วงซัมเมอร์อย่าง 1.ริคกี้ แลมเบิร์ต และ 2.บาโลเตลลี่ ทำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่ถูกคาดหวัง




ทางด้าน แลมเบิร์ต นั้นยังพอมีข้อแก้ตัวได้ว่าไม่ถูก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เรียกใช้เหรอให้โอกาสมากพอ เพราะถูกจับนั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ ต่างกับ บาโลเตลลี่ ที่ถูกทุ่มเงิน 16 ล้านปอนด์ ซื้อมาเสริมฝ่ายฟุตบอลหลังเปิดฤดูกาลไปแล้ว เพราะหวังว่าจะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในแนวรุกให้กับฝ่าย

และบาโลเตลลี่ กลายเป็นตัวเโจษจันกในแนวรุกอันดับแรกไปในทันที ภายหลัง สเตอร์ริดจ์ เจ็บไปตั้งแต่นัดที่ 3 ของฤดูกาล ซึ่งเป็นเกมเดียวที่ทั้งคู่ได้ลงเล่นร่วมกันจนถึงในเวลานี้

แต่ว่าภายหลังที่ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง บาโลเตลลี่ ก็ยังเบิกสกอร์แรกในพรีเมียร์ลีกในสีเสื้อของลิเวอร์พูลไม่ได้ จนสุดท้ายร็อดเจอร์สก็ไม่ดันทุรังอีกถัดจาก ด้วยการปลด เกรียนโอ้ ออกไปเป็นสำรองในที่สุด

โดยที่วิเคราะห์บอลการหลุดเหล่าไปของเขาส่วนหนึ่งมาจากปัญหาสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ พร้อมทั้งมีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง รวมถึงแผนการเล่นใหม่ที่ให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง มายืนป็นเบอร์ 9 หลอกแทนดูจักได้ผลดี จนทำให้ผลงานของหงส์แดงในช่วงหลังกระเตื้องขึ้นมา




สิ่งนั้นย่อมหมายความว่าโอกาสที่จะลงเล่นในตารางบอลของบาโลเตลลี่คงจักลดน้อยลงไปอีก เพราะว่าเฉพาะครั้นสเตอร์ริดจ์พร้อมจักคัมแบ็กแล้ว

กับทางบาโลเตลลี่ ได้ลงเล่นในไฮไลท์พรีเมียร์ลีกเกมล่าสุดด้วยการเป็นตัวสำรองในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ของลีกคัพรอบตัดเชือกนัดที่สอง กับ เชลซี เมื่อวันอังคาร ซึ่งบทบาทของเขายังคงเป็นการไม่มีบทบาทใดๆในการช่วยฝ่ายเหมือนเคย

แถมก็ยังมีส่วนทำให้ทีมเสียฟรีคิกจนนำไปสู่ประตูชัยของ คณะเชลซี ในเกมนี้ด้วย จากการจ่ายบอลพลาดจนเพื่อนต้องไปตัดฟาวล์

เพราะว่าที่ฟอร์มของบาโลเตลลี่ในนัดนี้ยิ่งทำให้กระแสข่าวที่ว่าเขาจะถูกหงส์แดงโละทิ้งมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น แม้เจ้าตัวจักเคยออกมาสาธยายว่าพร้อมจะสู้เพื่อตำแหน่งพร้อมด้วยพิสูจน์ตัวเองรองลงไปก็ตาม

ช่วงเวลาล่าสุด มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ของบาโลเตลลี่ ออกมาตอกย้ำถ้อยคำที่บาดหัวใจเหล่าเดอะค็อปหนักขึ้นไปอีก ครั้งเจรจาว่าเขาได้เจรจาเกรียนโอ้ไปแล้วว่าให้ลืมเรื่องยักเหล่าไปได้เลย เพราะว่ามีคำสัญญาอยู่ตั้ง 4 ปี ให้นั่งรับค่าแรงก้อนโตสบายๆ




พร้อมกับในส่วนโปรแกรมบอลมุมของเอเยนต์แล้ว ปกติจะชอบยุให้นักเตะเลื่อน เพราะตัวเองจักได้กินเปอร์เซ็นต์จากการซื้อขาย แต่ถ้าขายในช่วงที่สนนราคาตก ก็หมายความว่าส่วนแบ่งตรงนั้นจักลดน้อยลงไปด้วย

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เอเยนต์ชื่อดังชาวอิตาเลียนรายนี้ จะยื่นคำขาดไปว่าจักไม่เจรจากับพวกไหนทั้งนั้นในช่วงนี้ ถ้าจะพูดเรื่องขนย้ายก็ต้องรอให้บาโลเตลลี่ทำผลงานให้ดีก่อน จนค่าตอบแทนพุ่งไปซัก 45-50 ล้านปอนด์ ตอนนั้นค่อยมาว่ากัน

และถ้าเกรียนโอ้ทำแบบนั้นไม่ได้ล่ะ? เอเยนต์ผู้ปรารถนาดีแนะนำนิ่มๆ ว่าก็อยู่ไปเรื่อยๆ ให้มันแห้งตายคาแอนฟิลด์นี่แหละ ให้มันรู้กันไปว่า ถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่ยักย้าย ถึงไล่ก็ไม่เลิก

สมมติได้ฟังแบบนี้แล้ว ทีมลิเวอร์พูล คงต้องคิดหนักว่าควรจักให้ บาโลเตลลี่ ลงมาเล่นหรือไม่ก็เปล่า? เผื่อจับพลัดจับผลูเล่นดีขึ้นมา จักได้รีบหากรุ๊ปมารับเซ้งได้ง่ายขึ้น เหรอจะเก็บไว้เป็นสีสันและความบันเทิงให้กับแฟนๆ ถัดไปดี

Babybear

ที่มา: http://event.sanook.com/football

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น